ใจกลางกรุงเทพฯ มีตึกสูงแห่งหนึ่งที่ไม่เคยถูกลืม ทั้ง ๆ ที่มัน… “ไม่เคยสร้างเสร็จ” ด้วยซ้ำ นั่นคือ “ตึกสาทร ยูนีค” (Sathorn Unique Tower) อาคารร้างขนาด 49 ชั้น ที่กลายเป็นตำนานของกรุงเทพฯ ทั้งในฐานะความทรงจำของวิกฤตเศรษฐกิจ และในฐานะเครื่องพิสูจน์ความแข็งแรงของ “โครงสร้างที่ดี” แม้ตัวตึกจะไม่เคยถูกใช้งานจริงมาก่อนก็ตาม
.
ชื่อเสียงของตึกนี้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังเหตุการณ์ แผ่นดินไหวขนาด 6.4 แมกนิจูดบริเวณชายแดนลาว–ไทย ที่ผ่านมา ทำให้หลายอาคารสูงในกรุงเทพฯ สั่นไหว บางอาคารเสียหายเล็กน้อย บางที่ก็ถึงกับถล่มตามที่เป็นข่าว แต่… ตึกสาทร ที่ถูกทิ้งร้างมากว่า 30 ปี กลับไม่สะทกสะท้านเลย นี่จึงกลายเป็นคำถามใหญ่ของคนจำนวนมากว่า… “ทำไมตึกที่สร้างไม่เสร็จถึงแข็งแรงกว่าตึกที่ใช้งานจริงในปัจจุบัน?”
.
คำตอบนี้ อาจซ่อนอยู่ในเรื่องราวของการวางแผน วิสัยทัศน์ และการออกแบบอันลึกซึ้งของผู้สร้าง ที่ไม่ได้จะสร้าง “ให้ขายได้” แต่ “สร้างให้มั่นคงต่ออนาคต” — วันนี้เราจะมา ถอดบทเรียน ของตึกสาทรกันครับ ตึกที่สร้างไม่เสร็จ… แต่สอนเราทุกอย่างเรื่อง “โครงสร้าง”
.
ก่อนอื่นต้องพาย้อนเวลากลับไปในยุค 90s ยุคที่กรุงเทพฯ กำลังเปลี่ยนผ่านจากเมืองหลวงธรรมดา ไปสู่ “มหานครแห่งอาเซียน” โครงการ SathornUniqueTower เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2533 ซึ่งตั้งใจจะให้ที่นี่เป็นคอนโดมิเนียมหรูระดับพรีเมียม จำนวน 600 ยูนิต สูง 49 ชั้น ริมถนนสาทรใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา จุดที่ถือว่าเป็น ทำเทอง ของกรุงเทพฯ ในยุคนั้น
.
สถาปนิกผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบอาคารนี้ คือ คุณรังสรรค์ ต่อสุวรรณ ผู้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของ #วงการสถาปัตยกรรมไทย ด้วยลายเซ็นการออกแบบสไตล์นีโอคลาสสิกที่หรูหรา คุณรังสรรค์ไม่ได้ออกแบบเพียงเพื่อความงามภายนอก แต่ให้ความสำคัญกับ “โครงสร้าง” เป็นหัวใจหลัก ท่านเชื่อว่าอาคารที่ดีต้องไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องอยู่ได้ในโลกแห่งความจริง หมายถึงโลกที่มีพายุ แผ่นดินไหว น้ำท่วม แม้กระทั่งกาลเวลา
.
แต่เมื่อเศรษฐกิจไทยมีปัญหาในปี 2540 จากวิกฤต ต้มยำกุ้ง โครงการอสังหาฯ นับพันทั่วประเทศก็หยุดชะงักลง แน่นอนตึกสาทรก็เป็นหนึ่งในนั้น น่าเสียดายมากเพราะโครงการนี้ดำเนินการไปแล้วราว 80–90% และสิ่งที่เสร็จสมบูรณ์คือ “โครงสร้างหลัก” ทั้งฐานราก เสา คาน และระบบรับน้ำหนัก ซึ่งเป็นหัวใจหลักของตัวอาคาร แต่เมื่อแหล่งเงินทุนหยุดไหล ผู้บริโภคถอนการซื้อขาย และระบบเศรษฐกิจพังทลาย โครงการก็ต้องยุติลงในทันที ทั้งที่เหลือเพียง งานตกแต่งภายใน ระบบลิฟต์ และระบบสาธารณูปโภคอีกเล็กน้อยเท่านั้นเอง ตั้งแต่นั้นมา ตึกนี้ก็ยืนอยู่อย่างเงียบงัน เป็นอนุสาวรีย์ของความฝันที่หยุดลงกะทันหัน นับแต่นั้นมาตึกสาทรก็ถูกทิ้งร้างจนถึงปัจจุบันครับ
.
และจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ทำให้ทุกคนตั้งคำถาม แหล่งข่าวทุกสำนักวางประเด็นไว้ว่า ทำไมตึกนี้ ไม่สะเทือนเลย มันเป็นไปได้ยังไง แม้จะถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีการบำรุงรักษา ไม่มีผู้ใช้งาน และต้องเผชิญทั้งลมฟ้าอากาศ ฝุ่น มลภาวะ และเวลา — แต่ตึกสาทรกลับไม่ทรุด ไม่ร้าว ไม่ถล่ม นั่นเพราะว่า โครงสร้าง ของอาคารนี้ถูกออกแบบมาอย่างแข็งแกร่งและล้ำสมัยเกินยุคของมันไปมากครับ จากข้อมูลด้านโครงสร้างที่เรารวบรวมมา ก็ได้สรุปออกมาได้ตามนี้ครับ
1. ฐานรากของตึกสาทร ใช้ระบบ “เจาะลึก” ไปจนถึงชั้นดินที่มั่นคง โดยไม่ได้ใช้การตอกเสาเข็มแบบตื้น ซึ่งเสี่ยงต่อแรงสั่นสะเทือน 2. เสาและคานของตึก ใช้คอนกรีตเสริมเหล็กคุณภาพสูง หนาแน่นเกินมาตรฐานในยุค 90s ครับ 3. เสาแต่ละต้น ถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น เรียกได้ว่า “เผื่อพัง” เอาไว้เลยทีเดียว 4. ระบบถ่ายน้ำหนัก ใช้การกระจายแรงโดยตรง ไปสู่ฐาน ไม่ผ่านการหักเห ซึ่งตรงนี้เองจะช่วยลดแรงบิดและการสั่นสะเทือนจากภายนอกได้ครับ 5. ที่สำคัญที่สุดคือ คุณรังสรรค์ ได้ “คิดเผื่อแผ่นดินไหว” ไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ทั้งที่ในเวลานั้นประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐานต้านแผ่นดินไหวอย่างจริงจังเลย
.
กล่าวง่าย ๆ ก็คือ ตึกนี้ถูกออกแบบ เหมือน “นักรบเกราะเหล็ก” ที่แม้จะไม่ได้ออกไปทำศึกจริง แต่ก็พร้อมรบเต็มรูปแบบ ซึ่งในโลกแห่งสถาปัตยกรรม และการพัฒนาเมือง ตึกสาทรยูนีคเลยไม่ได้เป็นแค่ ตึกผี อย่างที่ใครหลายคนเรียก แต่เป็นเสมือน หนังสือเรียนเล่มใหญ่ ที่เปิดให้เราได้ศึกษาทุกครั้งที่มองขึ้นไป และจากเหตุกาณ์ที่ผ่านมา มันก็ยิ่งให้บทเรียนเราได้ชัดเจน
.
มาดูกันครับว่าบทเรียนอะไรบ้าง ที่เราถอดรหัส และสรุปออกมาจากตึกสาทร….
- การคิดระยะยาว มีค่ากว่าการมุ่งสู่กำไรระยะสั้น ถ้าผู้ออกแบบเลือกใช้วัสดุขั้นต่ำ หรือไม่สนใจระบบฐานราก วันนี้ตึกคงพังไปแล้ว แต่นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า “ความมั่นคงของโครงสร้าง” ไม่ใช่แค่เรื่องวิศวกรรม แต่คือ “วิธีคิด” ครับ
- ภาพลักษณ์ไม่สำคัญเท่าแก่นแท้ เปลือกภายนอกของตึกวันนี้ โอเคล่ะ.. มันอาจดูทรุดโทรม แต่โครงสร้างข้างในยังแน่นปึ้ก ผมชอบเปรียบเทียบว่ามันเหมือนกับหลายธุรกิจหรือคนเก่ง ๆ ที่อาจจะไม่ได้มาโชว์ตัว แต่ก็ยังคงแข็งแกร่งจากรากฐานที่ดี
- งานดีตั้งแต่ต้น…อยู่ได้นานเสมอ แม้ไม่ได้ใช้งานจริง แต่เมื่อโครงสร้างทำมาดี ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะพัง นี่คือบทพิสูจน์ว่า “คุณภาพ” มีคุณค่าในตัวของมันเองครับ
สุดท้ายแล้ว… ตึกสาทรยูนีคอาจไม่เคยได้เปิดใช้งานจริง อาจไม่ได้เป็นคอนโดหรูอย่างที่ตั้งใจ อาจไม่เคยมีใครพักอยู่เลยสักคน แต่มันได้ “ทำหน้าที่ของมัน” อย่างสมบูรณ์แล้ว ในฐานะ ครูสอนเรื่องโครงสร้าง ให้กับคนรุ่นหลัง และถ้ามีสิ่งหนึ่งที่เราควรจำจากตึกนี้… นั่นก็คือ“อย่าดูถูกสิ่งที่สร้างมาอย่างดี แม้มันจะไม่ได้ถูกใช้งาน” เพราะบางที… โครงสร้างที่ดีที่สุด คือโครงสร้างที่ยังอยู่แม้ไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย
________________________________________________________________________________
Decco Go Spark สร้างสรรค์พื้นที่ ส่งเสริมมูลค่า ในทุกมิติ สปาร์คเนื้อหาดี๊ดี เพราะเรื่องพื้นที่เราจะหยิบมาแชร์